Back

TED และ TEDx คืออะไร Conference ที่ควรไปดูสักครั้ง

TED และ TEDx คืออะไร และต่างกันอย่างไร ? แล้วทำไมบางขุนเทียนต้องมี TEDx ? TED คือเวทีทอล์กระดับโลกที่จัดขึ้นโดยไม่แสวงหาผลกำไร และจัดขึ้นเพื่อเผยแพร่ “ไอเดียที่ควรค่าแก่การเผยแพร่” ให้แพร่กระจายออกไปในวงกว้างเพื่อเปลี่ยนชีวิตของผู้คน

TED ย่อมาจาก 

  • T – Technology (เทคโนโลยี) 
  • E – Entertainment (ความบันเทิง)
  • D – Design (การออกแบบ)

ผลักดันประเด็นผ่านสื่อที่ใครก็ตามสามารถเข้าถึงได้ผ่านสโลแกน  “Ideas worth spreading”  องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรแห่งนี้ถูกก่อตั้งในปี 1984 และในปัจจุบันยังเผยแพร่ไอเดียในหัวข้อที่เกี่ยวกับ วิทยาศาสตร์, วัฒนธรรม และการเรียนรู้อีกด้วย

TED แท้จริงแล้วคืออะไร ? 

TED คือ องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ที่มีเป้าหมายในการกระจายแนวคิด ผ่านการทอล์กระยะสั้น และกระชับ แต่มีพลัง เต็มเปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจ โดยปกติทอล์กจะมีความยาวที่เกิน 18 นาที 

TED มีเป้าหมายในการเพิ่มความรู้ในระดับของบุคคล ในเรื่องของ Technology, Entertianment, Design อย่างไรก็ตามในปัจจุบัน TED เผยแพร่ไอเดียที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ที่ครอบคลุมหลาย ๆ หัวข้อรวมถึงธุรกิจหรือเศรษฐศาสตร์ระดับประเทศ และเผยแพร่ไปมากกว่า 100 ภาษาทั่วทุกมุมโลก

TED มีความหลงไหลในการช่วยเหลือผู้คน เติมเต็มความปรารถนา และความสนใจใคร่รู้ในระดับลึกของเรื่องต่าง ๆ ในโลกใบนี้ องค์กรของ TED ทำงานกันอย่างหนัก เพราะมีความเชื่ออย่างแรงกล้าว่า “ไอเดียสามารถเปลี่ยนแปลงทัศนคติ และความเป็นอยู่ของมนุษยชาติได้อย่างแท้จริง” 

เพื่อที่จะขับเคลื่อนทัศนคติดังกล่าว ชาว TED จึงจัดงานปาฐกถาขึ้นทุกปี ในหัวข้อที่มีความหลากหลายและครอบคลุม ยกตัวอย่างเช่นที่ผ่านมา Speakers ที่เคยมาพูดมีทั้ง Bill Gates, Bill Clinton และ Chris Anderson และอีกหลายคนที่คุณอาจรู้จัก 

TED ยังจัดการประชุม (Forum) สำหรับการผลักดันในเรื่องของเสรีภาพในการพูดหรือ Free speech และอนุญาตให้ผู้คนพูดในสิ่งที่ตัวเองเชื่อ

รวมทั้งยังเป็นส่วนสำคัญให้ผู้คนได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโลกของเรา และความรู้ที่มีประโยชน์ในการใช้ชีวิตที่เชื่อมโยงกับผู้คนมากมาย ซึ่งทำให้ข้อมูลที่มีประโยชน์อยู่รอบตัวของคนหลาย ๆ คนในสังคมทั่วทุกมุมโลก 

TED ยังนำผู้คนที่มีเป้าหมายคล้าย ๆ กันมารวมกันได้อีกด้วย ทำให้เพิ่มศักยภาพผู้คน และ พัฒนาสังคมไปพร้อม ๆ กัน

ส่วน TEDx คืออะไร?

TEDx คือเวทีที่จัดแยกออกมาเป็นเอกเทศน์ คล้ายกับ TED เช่นเดียวกัน เผยแพร่ไอเดียที่ควรค่าแก่การเผยแพร่ตามแนวทางของ TED แบบไม่แสวงหาผลกำไร TEDx ถูกขับเคลื่อนโดย เหล่าอาสาสมัครที่หลงไหลในการเผยแพร่ไอเดียและอุดมการณ์ของ TED ซึ่งไม่มีใครได้รับค่าตอบแทนที่เป็นเงินจากการจัดงานรวมถึง Speakers ด้วยเช่นเดียวกัน เหตุผลในการจัดงานนั้น คือเพื่อทำให้เกิดการพูดคุยถึงประเด็นต่าง ๆ เชื่อมโยงผู้คน และก่อให้เกิดเป็น “ชุมชน” ขึ้น

TEDx Talks คือเวทีปาฐกถาเหมือนกับ TED ซึ่งพูดในประเด็นคล้ายกัน แต่สิ่งที่แตกต่างกันก็คือ TED มุ่งไปที่ระดับโลก ส่วน TEDx มุ่งไปที่ “ชุมชน” (Local community) TEDx ยังเป็นเวทีที่จัดเป็นเอกเทศน์จาก TED events แต่ผู้ที่จัด TEDx ต้องได้รับการอนุญาตผ่านการขอลิขสิทธิ์จาก TED เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางของ TED ทั้งหลักการและวิธีการ เฉกเช่นเดียวกัน Speakers ของ TEDx จะปาถกฐาในรูปแบบที่สั้นและกระชับไม่เกิน 18 นาที 

จากที่มีการบันทึกไว้ TEDx Events ถูกจัดขึ้นมากกว่า 4,300 งานทั่วทุกมุมโลก  และมีผู้ติดตามบน YouTube มากกว่า 33 ล้านคน  ผู้ชมมากกว่า 1,000 ล้านครั้ง ซึ่ง TED มีแนวทางในการปาถกฐาให้เหล่า Speakers เตรียมตัวในการพูดบนเวที TEDx Talks ด้วย

“Creativity is as important as literacy”

ความคิดสร้างสรรค์มีความสำคัญพอๆ กับความรอบรู้

คำคม Ken Robinson

ซึ่งโดยหลักการแล้ว Speakers จะยึดตามแนวทาง 3 ข้อ

  • ไม่พูดเพื่อการขาย Speakers อาจพูดถึงงานที่เขาทำได้ แต่ไม่ได้พูดไปเพื่อการนำเสนอสินค้าหรือบริการ พวกเขาพูดเพื่อแชร์ประสบการณ์ไม่ใช่เพื่อขอเงินทุน
  • ไม่มีวาระทางการเมืองแอบแฝง เวทีของ TEDx จะไม่ถูกใช้เพื่อขับเคลื่อนพรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่ง Speakers ของ TEDx ควรจะหลีกเลี่ยงเกี่ยวกับการถกเถียงเรื่อง พรรคการเมือง พวกเขาจะมุ่งไปที่ใจกลางของสิ่งที่เป็นปัญหาและแนวทางการแก้ไขปัญหาของสิ่งที่พูดถึง
  • ไม่พูดเพื่อเผยแพร่ศาสนา Speakers จะไปใช้เวทีนี้ในการชักชวนให้คนมานับถือศาสนาเดียวกับตน หรือลดความสำคัญของศาสนาอื่นลง 

ความแตกต่าง ระหว่าง TED และ TEDx

  • TED จะเข้าถึงคนในระดับโลก ส่วน TEDx จะมุ่งไปที่ชุมชน
  • TED จัดเป็นเอกเทศน์แบบไม่ต้องขอลิขสิทธิจัดได้โดยทีมของ TED ส่วน TEDx จัดเป็นเอกเทศน์แต่ต้องขอลิขสิทธิ์จาก TED 
  • TED จัดและถ่ายทอดจากทีมของ TED officials ส่วน TEDx ทีมที่ถือลิขสิทธิ์เป็นคนจัดการเรื่องการถ่ายทอด
  • TED Speakers เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในสาขานั้น ๆ ส่วน TEDx Speakers ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญขนาด TED
  • TED เป็นงานที่มีผู้เข้าชมจำนวนมากจากทั่วโลก ส่วน TEDx กลุ่มผู้ชมจะมีขนาดเล็กกว่า

กล่าวโดยสรุปแล้ว TED Vs TEDx

ทั้งสองอีเว้นท์มีพื้นฐานที่เหมือนกัน คือ Technology, Entertainment และ Design มีจุดมุ่งหมายในการเผยแพร่ไอเดียที่ควรค่าแก่การเผยแพร่ให้กับโลก เพื่อทำให้โลกของเราดีขึ้น และชีวิตการเป็นอยู่ของมวลมนุษยชาติดีขึ้น นำเสนอผ่านสื่อออนไลน์ มีหัวข้อที่หลากหลายตั้งแต่วิทยาศาสตร์ไปจนถึงเศรษฐกิจระดับโลก 

ทั้งคู่ผลักดันจากแนวคิดระดับบุคคลไปให้ถึงการเปลี่ยนแปลงระดับโลก และช่วยให้ผู้คนเข้าถึงแหล่งความรู้ที่มีประโยชน์แบบก้าวข้ามข้อจำกัดเรื่องการเงิน

และหากคุณเชื่อว่า “ไอเดีย สามารถเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ได้” คุณก็มี TED spirit เช่นเดียวกัน  สามารถแชร์โพสนี้ออกไปหรือมาเป็นอาสาสมัครกับเราเพื่ออยู่ในเส้นทางเกิดใหม่กับกิจกรรมเพื่อสังคมไปพร้อมกับพวกเรา ! ซึ่งการจัดอีเว้นท์ก็เหมือนแหล่งเรียนรู้พัฒนาตนเองพอ ๆ กับได้อ่านหนังสือพัฒนาตนเองสักเล่ม

karnnikro
karnnikro
https://tedxbangkhunthian.com
Karnnikro | License Holder of TEDxBangKhunThian

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

This website stores cookies on your computer. Cookie Policy