รัฐสวัสดิการ คือลานแห่งความหวัง

0
20
รัฐสวัสดิการ
รัฐสวัสดิการ

รัฐสวัสดิการ คือลานแห่งความหวัง ปัจจุบันคนไทยพูดถึงรัฐสวัสดิการกันบ่อยครั้งขึ้น รู้หรือไม่ว่า? พ.ร.บ.ประกันสังคม เป็นกฎหมายสวัสดิการฉบับแรกของไทยที่เกิดจากการต่อสู้ของประชาชนหลายกลุ่ม เพื่อให้ได้มาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

รัฐสวัสดิการ นำมาซึ่งสิทธิ

สิทธิลาคลอด 90 วัน ของแรงงานหญิง ที่ไม่ว่าจะยากดีมีจนอย่างไร ก็ได้รับสิทธิ์นี้อย่างเท่าเทียมกัน เกิดจากเกิดการลุกขึ้นสู้ของกลุ่มสาวโรงงาน เมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้ว


ก่อนการได้มาซึ่งสวัสดิการนี้นั้น กฎหมายระบุให้ลาคลอดได้ 60 วัน โดยได้ค่าจ้างจากนายจ้างเพียง 30 วัน คุณแม่หลายคนที่ร่างกายยังไม่ฟื้นฟูเต็มที่จากการคลอด ต้องกลับมาทำงาน เพราะต้องใช้เงิน บางโรงงานไล่ผู้หญิงออกเมื่อท้อง


คุณภาพแห่งชีวิต ปฏิทินแห่งความหวัง : จากครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน กล่าวเริ่มต้นไว้ว่า
“เมื่อผมอยู่ในครรภ์ของแม่ ผมต้องการให้แม่ได้รับประทานอาหารที่เป็นคุณประโยชน์และได้รับความเอาใจใส่และบริการอันดีในเรื่องสวัสดิการของแม่และเด็ก”


การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์มีส่วนสร้างความก้าวหน้าของสังคม สวัสดิการเพื่อแม่และเด็กจึงเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กันกับความหวังที่จะเปลี่ยนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเป็นบำนาญถ้วนหน้า

กรณีศึกษาในต่างประเทศ

ประเทศฟินแลนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องรัฐสวัสดิการอย่างฟินแลนด์ ทั้งแม่และพ่อสามารถลาคลอดได้ถึง 9 เดือน ย้ำว่าพ่อสามารถลาคลอดได้ด้วย!


รัฐบาลฟินแลนด์มอบของขวัญแก่เด็กแรกเกิดทุกคน ซึ่งเป็นของใช้จำเป็นของเด็กเล็ก หรือจะเลือกรับเงินแทนก็ได้ นอกจากนี้ยังมีสวัสดิการอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น วันลาหยุดสำหรับพ่อเพื่อดูแลลูกวัยแรกเกิด เงินช่วยเหลือขณะหยุดงาน เรียกได้ว่าคนฟินแลนด์ได้รับการดูแลอย่างดีจากรัฐ
ตั้งแต่อยู่ในท้องแม่


นอกจากนี้รัฐบาลฟินแลนด์ยังดูแลเรื่องเงินช่วยเหลือสำหรับคนว่างงาน และเงินช่วยเหลือสำหรับผู้ที่ไปเกณฑ์ทหารในกรณีที่ครอบครัวไม่มีรายได้อีกด้วย


หากพูดถึงเรื่องเงินช่วยเหลือด้านการศึกษา ฟินแลนด์เองก็ขึ้นชื่อว่าทำหน้าที่นี้ได้ดีทีเดียว เพราะคนที่นั่นสามารถเข้าถึงการศึกษาได้อย่างเสมอภาค และฟรี! เช่นเดียวกับความหวังที่อาจารย์ป๋วยได้กล่าวถึงไว้ในบทความว่า


“ผมต้องการไปโรงเรียน พี่สาวหรือน้องสาวผมก็ต้องการไปโรงเรียน จะได้มีความรู้หากินได้และจะได้รู้คุณธรรมแห่งชีวิต ถ้าผมมีสติปัญญาเรียนชั้นสูง ๆ ขึ้นไป ก็ให้มีโอกาสเรียนได้ไม่ว่าพ่อแม่ผมจะรวยหรือจน จะอยู่ในเมืองหรือชนบทแร้นแค้น”


รัฐบาลทำหน้าที่หลักในการจัดสรรสวัสดิการให้เป็นธรรม และกระจายไปยังคนทุกกลุ่มอย่างถ้วนหน้า เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างโอกาสในการเข้าถึงคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนทุกคนในประเทศ

การเข้าถึงสวัสดิการเป็นไม่ใช่เรื่องของการถูกคัดเลือก ประเทศที่มีรัฐสวัสดิการที่ดี ไม่สนว่าใครจะเป็นนักเรียนดีเด่นด้านวิชาการ เพราะเราทุกคนสามารถเข้าถึงการศึกษาที่ดีได้ สามารถเข้าถึงโอกาสในการประกอบอาชีพ ในฐานะที่เป็นประชาชนของประเทศนั้น

กับดักความยากจน

คุณรู้จัก “กับดักความยากจน” หรือไม่? เมื่อติดอยู่ในกับดักนี้แล้ว ก็มีโอกาสส่งต่อความยากจนให้ครอบครัวจากรุ่นสู่รุ่น
คนรวยสุด 10% ของประเทศถือครองสินทรัพย์กว่า 77% กลุ่มคน 1% บนสุดมีความมั่งคั่งเฉลี่ย 33 ล้านบาทต่อคนมากกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มคนจน 20% แรก ถึงเกือบ 2500 เท่า


กลุ่มคนจนรายได้ติดลบ มีหนี้สิน ขาดโอกาสในการเข้าถึงคุณภาพชีวิตที่ดี การศึกษาที่ดี หรือการประกอบอาชีพที่จะสามารถเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวได้ นั่นเป็นเพราะพวกเขาถูกมองข้ามในเรื่องของรัฐสวัสดิการหรือไม่?

จะดีกว่าหรือไม่? ถ้าเราได้รับการดูแลที่ดีจากภาครัฐตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ เดินเตาะแตะ เข้าเรียน เข้าทำงาน สร้างครอบครัว
จะดีกว่าหรือไม่? หากถึงเวลาที่เราใกล้จะลาลับไปจากโลกนี้แล้ว เรามั่นใจว่ารัฐจะจัดสรรสวัสดิการเพื่อครอบครัวของเราให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ได้เข้าถึงโอกาส โดยไม่ถูกเลือกปฏิบัติ หรือต้องพิสูจน์ความจนเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิต่าง ๆ

มามีส่วนร่วมกันกับ รัฐสวัสดิการ

ขอเชิญชวนทุกคนที่มีความคิดเกี่ยวกับ อยากทำสังคมให้่ดีขึ้น หรือมีไอเดียในการพัฒนาตนเองรวมถึงความสร้างสรรค์ในการทำสวัสดิการให้ดีขึ้น เข้ามาแชร์และเกิดใหม่กับพวกเราใน

Line Open chat
“Smart BangKhunThian By TEDx”


จะเป็นไปได้ไหมที่เราจะเปลี่ยนลานความหวังให้เป็นพื้นที่แห่งความเป็นจริงที่คนไทยจะสามารถเข้าถึงโอกาส และคุณภาพชีวิตที่ดีได้อย่างเสมอภาคกันจากรัฐสวัสดิการ

เขียน : Amitta Pann
ภาพ : Sofia


หากคุณชอบบทความนี้
อย่าลืมกดติดตาม เพื่อไม่พลาดการ “เกิดใหม่” ไปพร้อมกับพวกเรา
มาร่วมพูดคุย แลกเปลี่ยนความเห็นเพื่อพัฒนาสังคมกันต่อได้ที่


​FB : TEDxBangkhunthian
IG : https://bit.ly/2ZNKHDE
website : https://tedxbangkhunthian.com

บทความก่อนหน้านี้บางขุนเทียน ทำไมถึงต้องทอล์ก
บทความถัดไปBrain chip กับ Neuralink
Avatar photo
มนุษย์เจน Z ผู้เชื่อว่า ชีวิตคือการ go exploring เรายังไม่ต้องรีบตัดสินใจว่าจะต้องปักเส้นทางเดินหลักเป็นทางไหน เพราะเกิดมา 1 ครั้งแล้ว ก็ต้องลองไปทุกที่ที่อยากไปให้คุ้ม! ดังนั้น การที่ได้มาอยู่ตรงนี้ ก็ถือเป็นการ go exploring ของชีวิตเช่นกัน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่